Friday, May 24, 2013

พื้นฐานภาษาญี่ปุ่นที่ต้องรู้

สำหรับผมแล้ว
การเรียนภาษานั้นมีการเรียนรู้ 2 วิธี(แบ่งแบบหยาบๆ)
1. การเรียนภาษาโดยธรรมชาติ
พูดง่ายๆคือ หลังจากทุกคนถูกคลอดออกมา พอเป็นทารกก็เริ่มได้ยินเสียงคำว่า "พ่อ" "แม่" "ป๊า" "ม๊า" แล้วแต่สะดวกเรียก จากนั้นก็สั่งสมการเรียนรู้จากการที่คนรอบข้างพูดคุยกันผ่านการฟัง ทั้งๆที่เราก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่เราสามารถรู้คำพูดหรือสำนวนนั้นๆได้จากการมองเห็น พอนานๆซ้ำๆเข้า เราก็เริ่มพูดตาม พอพูดได้ก็แสดงว่าเราออกเสียงได้ การออกเสียงก็เป็นพื้นฐานแรกเลยของการอ่าน ยิ่งอ่านยิ่งมีความรู้มากขึ้น เกิดการขีดเขียนตัวอักษรและเริ่มเรียนรู้โครงสร้างการเขียนขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ็
คุ้นๆไหมครับ ตัวดำๆ ถ้าเรียงลำดับล่ะก็คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน นั่นเอง ซึ่งวิธีนี้เป็นกระบวนการเรียนภาษาแม่ของตัวเอง

2. การเรียนภาษาโดยการศึกษาในระบบ
เมื่อเข้าสู่ระบบการศึกษา ข้อดีก็คือ "ลำดับการเรียนรู้ว่าควรรู้อะไรก่อนควรรู้อะไรหลัง ไล่ตั้งแต่ขั้นต้นไปจนถึงขั้นสูง" มันก็สะดวกดีหรอกแต่ว่า ถ้าไม่มีการประยุกต์ใช้ล่ะก็ มันก็ไม่เกิดการซึมซับอยู่ดี
วิธีนี้นำไปใช้กับการเรียนภาษาที่ไม่ใช่ภาษาแม่ตัวเอง

ดังนั้น

ในฐานะที่คนไทยอย่างเราๆจะเรียนภาษาญี่ปุ่นต้อง
รียนจากวิธีที่ 2. และ ประยุกต์ใช้โดยผ่านการ ฟัง พูด อ่าน เขียน นั่นเอง!!

เอาล่ะ ที่นี้มาดูกันว่า สิ่งต้องรู้ในภาษาญี่ปุ่นก่อนเลยก็คือ โครงสร้างภาษาญี่ปุ่น 
จริงๆแล้วมีหลายๆข้อที่เกี่ยวกับโครงสร้างภาษาญี่ปุ่นแต่ผมจะยกที่สำคัญๆที่ใช้จริงๆคือ
1. ภาคประธาน + ภาคแสดง(ภาคแสดงได้แก่ คำนาม กริยา คำคุณศัพท์ )
เช่น เขา  เป็น  นักเรียน,    เขา   กิน   ข้าว,     เขา    อ้วน  เป็นต้น
(ข้อนี้ยังพอได้อยู่เพราะคล้ายๆกับภาษาไทย)

2. คำกริยาอยู่ท้ายประโยค 
โครงสร้างภาษาไทย   เขา   กิน   ข้าว
โครงสร้างภาษาญี่ปุ่น  เขา   ข้าว   กิน 
(อ๊ะๆ ไม่ต้องตกใจ แค่ย้ายตำแหน่งกริยาไว้ท้ายประโยค)

3. ส่วนขยาย + ส่วนถูกขยาย
ง่ายๆเช่น   
โครงสร้างภาษาไทย   หนังสือ+ของฉัน        
โครงสร้างภาษาญี่ปุ่น  ของฉัน+หนังสือ

 โครงสร้างภาษาไทย   สุนัข +ที่นั่งอยู่        
โครงสร้างภาษาญี่ปุ่น   ที่นั่งอยู่่+สุนัข
(ก็แค่สลับตำแหน่งกันเท่านั้นเอง)

4. ภาษาญี่ปุ่นมีสิ่งที่เรียกว่า "คำช่วย"
คำช่วย ชี้หน้าที่ คำนามที่อยู่หน้ามัน 
เช่น 
โครงสร้างภาษาไทย  เขา  กิน   ข้าว
โครงสร้างภาษาญี่ปุ่น   เขา +คำช่วยชี้ประธาน     ข้าว + คำช่วยชี้กรรม   กิน
                                     か れ+が      ごはん+を    たべます。

4 ข้อนี้ถือว่าเป็น พื้นฐานสำคัญของภาษาญี่ปุ่น
 
ไม่ต้องท่องจำหรอก 

มันจะมีผลมากๆเมื่อเราใช้งานจริงๆ
(จากประสบการณ์ตรงของผมไม่ว่าจะเป็น การพูด การฟัง การเป็นล่าม)  



Thursday, May 23, 2013

ตอนนี้ เรียนภาษาอะไรดี เรียนภาษาญี่ปุ่นดีไหม?

"เรียนภาษาที่ 3 ไว้ AEC เปิดเมื่อไร ได้ใช้แน่"
หลายๆคนคงเคยได้ยินคำพูดทำนองนี้ไม่มากก็น้อย
จริงๆแล้ว ภาษาที่น่าเรียนต่อจากภาษาอังกฤษ ก็มีหลายภาษา อาทิ
ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาเกาหลี
สำหรับผมแล้ว เรามาดูกันว่า ภาษาอะไรควรเรียน
อย่างแรก 
"ต้องตั้งเป้าว่าเรียนภาษานั้นเพื่อไปทำอะไร" มากกว่า "ภาษาอะไรกำลังฮิต ณ ตอนนี้"
หลายคน เรียน ภาษาจีน ซึ่งกำลังบูมมากๆ เพราะจีนกำลังรุ่งและคนเยอะ ตั้งตาคอยว่าจะได้ใช้
แล้ว ภาษาญี่ปุ่น ล่ะ ดีไหม น่าเรียนไหม และฮิตไหม
ขยายความนะว่า คำถามที่ว่า "น่าเรียนไหม" มันหมายถึงอะไร
น่าจะถามกับตัวเองว่า "เรียนแล้วจะใช้ทำอะไร" มากกว่า "น่าเรียนไหม"
เพราะ ทุกภาษา น่าเรียนหมด ขึ้นอยู่กับ วัตถุประสงค์ของเรามากกว่า
เอาละ ทีนี้ มาดูกันว่า ภาษาญี่ปุ่นดีไหม ?
แม้ว่า ตอนนี้เทรนญี่ปุ่นกำลังตก ในสายตา หลายๆคน
แต่อย่าลืมนะว่า "ประเทศที่มาลงทุนสูงสุดของไทย"คือ ประเทศญี่ปุ่น
ตอนนี้ จีนกับญี่ปุ่น มีปัญหาระหว่างประเทศ หลายๆธุรกิจขนาด SME ของญี่ปุ่นแห่มาลงทุนในไทย
แน่นอน การสื่อสารย่อมมีความจำเป็น ญี่ปุ่นชาตินิยม เน้นแต่ภาษาตัวเอง
ไม่ต้องไปน้อยเนื้อต่ำใจหรอกว่า มาไทย ก็ต้องพูดไทยดิ 
คนญี่ปุ่น "เราต้องการคนสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้" 
คนไทยพูดญี่ปุ่นนี่แหละดี เราได้เปรียบต่างหาก ! 
มิหนำซ้ำ คนไทยพูดอังกฤษได้ โดยรวมแล้ว เราก็ยังเก่งกว่า คนญี่ปุ่น
ความเชื่อส่วนตัวของผมคือ
คนไทยมักคิดว่า 
"ตอนนี้ญี่ปุ่นเริ่มไม่ฮิตในสายตาคนไทย"
ขณะเดียวกันคนญี่ปุ่นมักคิดว่า
"ตอนนี้ไทยน่าลงทุนในสายตาคนญี่ปุ่นมากกว่าในภูมิภาคอาเซียน"
สุดท้ายครับ
เราอยากเรียนอะไร เราชอบอะไร ทำมันเถอะครับ 
เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเรียนสิ่งนั้นอย่างยั่งยืน